วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 17

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561เวลา 13.00น.-17.30น.

ชดเชยของวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 เวลา 11.30-14.30น.




หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2560  ของ รองศาสตราจารย์  ดร.พัชรี ผลโยธิน




เอกสารประกอบการบรรยาย สาระสำคัญของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2560
  ของ
 รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรี ผลโยธิน




ความหมายของหลักสูตร
คือ  การวางแผนสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นในการเรียน อาจอยู่ในรูปที่มองเห็น คือ เอกสารหลักสูตรและสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น ปฏิสัมพันธ์(การยิ้ม  การไหว้  สายตา  การพูดคุย)

ความสำคัญของหลักสูตร
  • เป็นเอกสารทางราชการ
  • เป็นเกณฑ์มาจราฐานทางการศึกษาปฐมวัย
  • เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างเอกภาพของชาติ
  • เป็นแผนดำเนินงานของผู้บริหารสถานศึกษา
  • เป็นเครื่องชี้นำทางในการปฏบัติงานของครูปฐมวัย
  • เป็นแนวทางในการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนของครูเพื่อพัฒนาเด็ก
ลักษณะของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
  • เป็นเอกภาพ
  • มีความยืดหยุ่น(ปรับเปลี่ยนได้)
  • มีความเป็นสากลบนพื้รฐานความเป็นไทย
  • กำหนดช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด-6ปีบริบูรณ์
  • ใช้ได้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย(กลุ่มเสี่ยง เด็กพิเศษ เด็กตามชายแดน)
จุดเน้นของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
  • พัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม(พัฒนาทั้ง 4 ด้าน ให้มีความสมดุลกัน
  • ยึดเด็กเป็นสำคัญ(ให้เด็กมีส่วนร่วม)
  • เรียนรู้ด้วยการลงมือกระทำ
  • บูรณาการผ่านการเล่นและประสบการณ์สำคัญ
    พัฒนาการ = ความสามารถของเด็กแต่ละช่วงวัย
    ประสบการณ์ = ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้

การพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม
  • พัฒนาพร้อมกันทุกด้าน
  • พัฒนาตามแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับพัฒนาเด็ก
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
  • จัดประสบการณ์บูรณาการผ่านการเล่น
  • จัดกิจกรรมที่หลากหลาย
  • ประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล
  • ปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและครอบครัวเด็ก(แลกเปลี่ยนข้อมูลเด็ก/มีผู้สนับสนุน)
องค์ประกอบหลักสูตร
  • ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย(ความเชื่อ)
  • วิสัยทัศน์(เป้าหมายที่ต้องการไปให้ถึงตามความเชื่อ)
  • หลักการ(แนวทาง)
  • หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
  • หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี                                                            



   สามารถนำไปใช้ในการเขียนแผนการสอน และดูประกอบการสอนในอนาคตเพื่อนสอดคล้องกับพัฒนาเด็กตามวัย



ตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง และจดบันทึก
เพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลา และตั้งใจฟัง
อาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอนได้ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย
บันทึกการเรียนครั้งที่ 16
วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2561
เวลา 11.30-14.30 น.



   - การจัดประสบการณ์ควรออกแบบให้สอดคล้องและเหมาะสมกับพัฒนาการของสมองและ             
  วิธีการเรียนรู้
   - การจัดประสบการณ์เรียนรู้ควรออกแบบให้เด็กได้ลงมือกระทำหรือเรียกว่าการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning

Active Learning จึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก  ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือ ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ         (สถาพร  พฤฑฒิกุล, 2558)


หลักสูตร คือ คู่มือ แนวทาง  ในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาหรือจัดประสบการณ์ให้กับเด็กได้บรรลุตามเป้าหมาย

ผู้มีส่วนร่วม คือ ครู  นักเรียน  ผู้ปกครอง  ผู้บริหาร  ชุมชน

ทักษะเด็กยุค 4.0
  • การร่วมมือร่วมใจ
  • การคิดสร้างสรรค์
  • ความสารมารถการคิดแก้ปัญหา การเอาตัวรอด
การเล่นเป็นวิธีการเรียนรู้ของเด็ก คร๔ต้องจัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ของเด็ก

        Executive Function (EF) คือ การทำงานของสมองด้านการจัดการ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในชีวิต โดยอาศัยกระบวนการทางปัญญา (cognitive process) ต่างๆ เช่น การยับยั้งความคิด การแก้ปัญหา การวางเป้าหมาย การวางแผนการปฏิบัติ (goal-directed behavior) การจดจำ ความยืดหยุ่นทางปัญญา (cognitive flexibility) เป็นความสามารถในการควบคุมความคิดตนเอง เช่น มีรูปแบบความคิดที่หลากหลาย การคิดนอกกรอบ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดและความสนใจตามสถานการณ์ รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งที่ซับซ้อน
          
        กระบวนการทางปัญญาเหล่านี้สามารถพัฒนาได้ในวัยเด็กตอนต้น ผ่านกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะด้านสังคม อารมณ์ และร่างกายเพื่อช่วยส่งเสริม EF ให้ดีขึ้น เช่นการเล่นดนตรี เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กระตุ้นการทำงานของ EF เพราะต้องอาศัยทักษะต่างๆ เช่น การมีสมาธิอย่างต่อเนื่อง ความยืดหยุ่นทางปัญญา การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน (task switching)
การเลือกหน่วยการเรียนรู้  ดูอ้างอิงจากหนังสือหลักสูตร เลือกเรื่องที่ใกล้ตัวและมีผลกระทบกับตัวเด็ก  เมื่อได้หน่วยแล้วครูจึงวิเคราะห์หน่วยการเรียนด้วยการทำ Mind Mapping




จัดประสบการณ์ให้เด็กได้ตรงกับวิธีการเรียนรู้ของเด็ก และตามความเหมาะสมของเด็ก


 ประเมินตัวเอง มาเรียนตรงเวลา  มีการจดบันทึก 
 ประเมินเพื่อน มาเรียนตรงเวลา
 ประเมินอาจารย์ ให้ความณุ้และสอนเข้าใจ 


วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 15

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561

เวลา 14.00น.-17.00น.





งดการเรียนการสอนเพื่อทบทวนความรู้


เรียนชดเชยวันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 

บันทึกการเรียนครั้งที่ 14

วันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2561

เวลา 14.00น.-17.00น.


วันหยุดสงกรานต์

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 13

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2561วลา 14.00น.-17.00น.

ชดเชยของวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2561 เวลา 11.30น.- 14.30น.


สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ (วันศุกร์)

-หน่วยแหล่งน้ำ
-หน่วยฝน











   สามารถนำไปใช้ในการเขียนแผนการสอน และใช้ในอนาคตได้



ประเมินตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง และตั้งใจสอน
ประเมินเพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลา และมีแผนมาส่งอาจารย์
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน 
บันทึกการเรียนครั้งที่ 12

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561

เวลา 11.30-14.30 น.



การสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์(วันพฤหัสบดี)








วัตถุประสงค์


เพื่อให้เด็กสามารถ 
1.บอกวิธีการปฏิบัติในการใช้ยานพาหนะได้
2.ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
3.สนทนาและแสดงความคิดเห็นได้

ประสบการณ์สำคัญ
 ด้านอารมณ์-จิตใจ


1 การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องราวต่างๆ
ด้านสังคม
2.การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ด้านสติปัญญา


3.การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมองและการฟัง

สาระที่ควรเรียนรู้
เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ข้อควรปฏิบัติของยานพาหนะเช่นนั่ง รถยนต์ต้องคาดเบลท์  ไม่ยื่นมือและศรีษะออกมานอกรถและไม่หยอกล้อกันขณะขับรถ นั่งเรือต้องใส่ชูชีพนั่งที่ให้เรียนร้อยไม่วิ่งและหยอกล้อกัน  นั่ง จักรยานยนต์ต้องใส่หมวกกันน็อกและไม่ซ้อน3คน 

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
 ครูและเด็กร่วมกันอ่านคำคล้องจอง
          คำคล้องจอง ปลอดภัยไว้ก่อน  ผู้แต่ง ธาร่า
          สวมหมวกนิรภัย ใส่ใจทุกครั้ง
          ขึ้นรถระวัง รีบนั่งให้ดี
          เข็มขัดคาดไว้ เรือไวเร็วจี๋
          ดูอย่างถ้วนถี่ มีความปลอดภัย
 และร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับคำคล้องจอง เช่น เด็กๆรู้ไหมคะว่าเวลาเราขึ้นรถเราควรปฏิบัติอย่างไร

ขั้นสอน
1.ครูมีภาพอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากไม่ปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติในการใช้ยานพาหนะมาให้เด็กดู เช่นภาพรถยนต์ชนแล้วคนกระเด็นออกจากรถเพราะไม่ได้คาดเข็ม  ภาพคนจะจมน้ำเพราะนั่งเรือไม่ใส่ชูชีพ  ภาพนั่งจักรยานยนต์ล้มคนบาดเจ็บเพราะไม่ใส่หมวกกันน็อก
 2.ครูให้เด็กสังเกตภาพอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ต่างๆ ในการใช้ยานพาหนะโดยใช้คำถาม เช่น“เด็กๆลองสังเกตดูสิว่าที่รถยนต์ชนกันและคนกระเด็นออกจากรถเป็นเพราะอะไร”
3.ครูบันทึกร่องรอยการเรียนรู้ลงผังกราฟฟิก




ขั้นสรุป
  ครูและเด็กร่วมกันทบทวนข้อควรปฏิบัติของการใช้ยานพาหนะ
 สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1.ชาตคำคล้องจอง
2. ผังกราฟฟิก
3.รูปภาพอุบัติเหตุ

การวัดและประเมินผล
สังเกตและบันทึกพฤติกรรม ดังนี้
1.บอกวิธีการปฏิบัติในการใช้ยานพาหนะได้
2.ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
3.สนทนาและแสดงความคิดเห็นได้

ารบูรณาการ
ภาษา
สังคม


สามารถนำไปใช้ในการเขียนแผนการสอน 


ประเมินตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง และตั้งใจสอน
ประเมินเพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลา และมีแผนมาส่งอาจารย์
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน 
บันทึกการเรียนครั้งที่ 11
วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2561
เวลา 11.30-14.30 น.




การสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์(วันพุธ)



วัตถุประสงค์
เพื่อให้เด็กสามารถ
    1.บอกวิธีการดูแลรักษายานพาหนะได้
    2.ทำความสะอาดยานพาหนะได้

    สาระการเรียนรู้
    สาระที่ควรเรียนรู้


    ประสบการณ์สำคัญ
    • ด้านอารมณ์จิตใจ : กล้าแสดงออก มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน
    • ด้านสังคม : การวางแผนตัดสินใจและเลือกลงมือทำ
    • ด้านสติปัญญา : การสังเกตวิธีการและลำดับขั้นตอน
    กิจกรรมการเรียนรู้
    กิจกรรมพื้นฐาน
      ขั้นนำ
    1.ครูร้องเพลง “ล้างรถกันเถอะ”

    “ ล้าง ล้าง ล้าง พวกเรามาล้างรถกันเถอะ
    ล้างแล้วจะไม่เลอะเทอะ (ซ้ำ)
    ล้างรถกันเถอะ มาช่วยกันล้าง”


          ขั้นสอน
    2.ครูสอนวิธีล้างรถยนต์ โดยการนำอุปกรณ์ล้างรถยนต์มาอธิบายวิธีการใช้


    3.ครูอธิบายขั้นตอนการล้างรถ
       1.ฉีดน้ำไล่คราบสกปรก
       2.การผสมน้ำยาล้างรถ
       3.ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำยาแล้วล้างจากหลังคาไล่ลงมาด้านข้างรถ
       4.ล้างด้วยน้ำสะอาด
       5.ใช้ผ้าเช็ดแห้ง เช็ดให้สะอาด

    ขั้นสรุป
       1.ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาทบทวนอุปกรณ์และขั้นตอนการล้างรถ
        2.เข้าสู่บทเรียนในเรื่องถัดไป

    สื่อ / แหล่งเรียนรู้
    • ชาร์ตเพลง


    • ชาร์ตอุปกรณ์
    • ชาร์ตขั้นตอนการล้างรถ

    อุปกรณ์ล้างรถ
    •  เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
    •  ฟองน้ำ 
    •  ถังน้ำ
    • แชมพู
    •  ผ้าเช็ดแห้ง 

    การวัดและประเมินผล
     1.บอกวิธีดูแลรักษายานพาหนะได้
    บูรณาการ

     1.วิทยาศาสตร์:การจัดลำดับ
     2.สุขศึกษา:การดูแลรักษาความสะอาด

    สามารถเอาไปใช้ในการฝึกสอนได้ 

    ประเมินตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง และตั้งใจฟังเพื่อนสอน
    ประเมินเพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลา และมีแผนมาส่งอาจารย์
    ประเมินอาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน มีการยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนและแนะนำการทำ